ชมวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร

ชมวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร

ด้วยความเก่าแก่โบราณของเมืองท่องเที่ยวหลักของเมืองไทยอย่างกรุงเทพมหานครนั้น สามารถย้อนกลับไปได้มากกว่า 200 ปีเลยก็ว่าได้ ทำให้เมืองแห่งนี้มีที่เที่ยวที่เป็นวัดวาอาราม และโบราณสถานที่มีความเก่าแก่ตามอายุของเมืองไปด้วย ซึ่งหลายแห่งนั้นก็มีความสวยงามและสามารถอนุรักษ์ให้คงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อย่างที่ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ถือว่าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพที่มีความสำคัญ และยังเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมเมื่อพวกเขามีโอกาสมากรุงเทพ

Image result for วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
บริเวณภายนอกพระอุโบสถของวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร-พระประธาน
'พระศรีสรรเพชญ์' เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตักกว้าง 5.16 เมตร วัสดุก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง เป็นพระพุทธรูปที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลที่ 1 ทรงเคารพศรัทธาสูงสุด ประดิษฐาน เป็นพระประธานใหญ่ในพระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
"ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้เคยตั้งสัตยาธิษฐานขอบารมีพระศรีสรรเพชญ์ที่ให้ช่วยคุ้มครองจากข้าศึกในระหว่างทรงร่วมกอบกู้ชาติบ้านเมือง เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 สันนิษฐานว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท โปรดให้พระยาเทวารังสรรค์ ช่างวังหน้า เป็นผู้ปั้น 'พระศรีสรรเพชญ์' ขึ้น เพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดมหาธาตุ (ขณะนั้นเรียกชื่อวัดพระศรีสรรเพชญ์ คือ ในระหว่างปี พ.ศ.2331-2346 ซึ่งเป็นยุคต้นของรัตนโกสินทร์) พร้อมกับการปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างอื่นๆ ทั่วทั้งพระอาราม ในครั้งนั้นนามของพระประธาน จึงอนุโลมตามชื่อวัดไปด้วย มีเรื่องราวบันทึกไว้ว่า เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ใกล้สวรรคต ได้เสด็จขึ้นพระเสลี่ยงไปที่วัดมหาธาตุฯ เพื่อทรงนมัสการพระประธานในพระอุโบสถ สมเด็จพระบวรราชเจ้าฯ ทรงจบพระหัตถ์อุทิศถวายพระแสงดาบให้ทำเป็นราวเทียน โปรดให้จุดเทียนเรียงติดไว้ที่พระแสง เมื่อครั้งทรงพระประชวรในปลายสมัยของพระองค์ เพื่อเป็นพุทธบูชา ต่อมาในปี พ.ศ.2387 วัดชำรุดทรุดโทรมมาก พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ทั่ว ทั้งพระอาราม โปรดให้เสริมส่วนสูงพระอุโบสถเพิ่มขึ้น 1 ศอก ในการนี้ พระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นพระประธานได้รับการเสริมสร้างให้ ใหญ่ขึ้นตามพระอุโบสถ โดยพระยาชำนิรจนาเป็นผู้ปั้น ในเวลาต่อมาองค์พระได้รับการปิดทองใหม่อีก 2 ครั้ง คือใน พ.ศ.2445 เกิดอสุนีบาตพระอุโบสถด้านตะวันตก พระประธานต้องสายฟ้าดำไปทั้งองค์ และอีกครั้งหนึ่งใน พ.ศ.2467"

สำหรับวัดอย่าง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร นั้นถือว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และสำคัญอย่างมากในกรุงเทพ โดยเป็นวัดที่ชาวกรุงเทพและชาวไทยรู้จักกันเป็นดี อีกทั้งเป็นวัดที่มีการสังคายนาพระไตรปิฎกเป็นครั้งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วย และด้วยชื่อและความจงใจที่จะให้วัดแห่งนี้เป็นเหมือนตัวแทนของวัดพระศรีสรรเพชญเมื่อครั้งกรุงเก่า ทำให้วัดมีความสำคัญ เป็นที่ตั้งของโบราณสถานและโบราณวัตถุมากมาย และเป็นย่านที่มีความคึกคักตั้งแต่ในอดีต นอกจากเป็นแหล่งค้าขายแผงพระแล้ว ก็ยังเป็นแหล่งรวมสินค้าที่เกี่ยวกับของพุทธบูชาต่างๆ จึงทำให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก



วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร-ระเบียงคด
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดสลัก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อทรงตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี และทรงสร้างพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับ และสร้างพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นที่ประทับสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล นั้น วัดสลักเป็นวัดที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพระบรมมหาราชวังกับพระราชวังบวรสถานมงคล สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทโปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสลักเมื่อ พ.ศ.2326 พร้อมกับการก่อสร้างพระราชวังบวรสถานมงคล จากนั้นทรงเปลี่ยนชื่อวัดจากวัดสลัก เป็นวัดนิพพานาราม เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ใช้วัดนิพพานารามเป็นสถานที่สังคายนาพระไตรปิฎกใน พ.ศ.2331 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดพระศรีสรรเพชญ" และใน พ.ศ.2346 พระราชทานนามใหม่ว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรมหาวิหาร ตามชื่อวัดในกรุงศรีอยุธยาที่เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุเป็นสถานที่ที่ใช้เป็นที่พระราชทานเพลิงพระบุพโพเจ้านายซึ่งดำรงพระเกียรติยศสูง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ใช้พื้นที่ของวัดเป็นที่สร้างเมรุพระราชทานเพลิงพระศพพระบรมวงศ์ชั้นสูง พ.ศ.2439 โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในการบูรณะวัดมหาธาตุและพระราชทานนามว่า "วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์"



วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร-สิ่งสำคัญ
สถานที่ภายใน วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาคารสิ่งก่อสร้างที่มีความเก่าแก่และสวยงาม รวมทั้งสถูปและอนุสาวรีย์ต่างๆ อีกทั้งพื้นที่รอบๆ วัดก็เป็นแหล่งค้าขายและแผงพระที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพ อีกทั้งยังมีร้านจำหน่ายตำราต่างๆที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาตั้งอยู่มากมาย เพราะที่วัดแห่งนี้เหมือนเป็นวิทยาลัยของสงฆ์อีกแห่งของกรุงเทพมาตั้งแต่เริ่มก่อร่างสร้างเมืองเลยก็ว่าได้

ดิฉันมักไปวัดมหาธาตุอยู่เป็นประจำ เนื่องจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมและความสงบร่มรื่นภายในวัดทำให้ฉันรู้สึกสบายใจและประทับใจทุกครั้งที่ได้ไปเยี่ยมชมและกราบสักการะองค์พระศรีสรรเพชญ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของทั้งชาวกรุงเทพและชาวต่างชาติ

สำหรับท่านใดที่อยากจะเดินทางมาเที่ยวชมความน่าสนใจของ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ก็สามารถเดินทางมาได้โดยรถโดยสารประจำทางหรือรถยนต์ส่วนตัว ตัววัดตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระบรมหาราชวังเท่าใดนัก และสามารถเดินต่อเชื่อมไปยังแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายๆ แห่งได้อีกด้วย นับว่าสะดวกและเหมาะจะมาท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง



จัดทำโดย นางสาว ญาณิศา อัศววิรุฬหวงศ์ ม.6 ห้อง 156 เลขที่ 3


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://pra.kachon.com/pra/detail.asp?id=1691

Comments